Friday, February 23, 2007

ความเรียง 5 ย่อหน้า



ชีวิต ความหวัง กำลังใจ….
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว…. มีนักพูดที่มีชื่อเสียงอยู่ท่านหนึ่งได้เปิดการสัมมนาโดยมีผู้เข้าฟังการสัมมนา ประมาณ 200 คน ในการสัมมนานั้น นักพูดได้ชูแบงค์ 100 บาทขึ้นมา แล้วพูดออกมาว่า มีใครอยากได้แบงค์100บาทใบนี้บ้าง ปรากฎว่ามีคนยกมือขึ้นเป็นจำนวนมากนักพูดเลยได้ขยำเงินจนยับยู่ยี่ จากนั้นก็ชูเงินขึ้นอีกครั้ง แล้วพูดออกมาว่า มีใครอยากได้แบงค์100บาทใบนี้บ้าง ปรากฎว่ามีคนยกมือขึ้นอีกจำนวนมากจากนั้นนักพูดได้ทิ้งแบงค์100บาทใบนั้นลงที่พื้นแล้วย่ำมันด้วยรองเท้าจนแบงค์ยับและสกปรก นักพูดหยิบแบงค์100บาทขึ้นมาแล้วชูเงินขึ้นอีกครั้ง แล้วพูดออกมาว่า ตอนนี้แบงค์ทั้งยับและสกปรก มีใครอยากได้แบงค์100บาทใบนี้อีกบ้าง ปรากฎว่า ก็ยังมีคนยกมือขึ้นอีกจำนวนมากเหตุการณ์นี้เราได้บทเรียนดีๆ บทหนึ่ง ไม่ว่านักพูดจะทำอะไรกับเงิน คนก็ยังคงต้องการมันอยู่ดี เพราะว่าคุณค่าของมันไม่ได้ลดลงเลย มันยังคงเป็นแบงค์100บาทที่ใช้ซื้อของได้อยู่นั้นเอง

เรื่องนี้ก็เหมือนกับชีวิตคนเรานั่นแหละ บางครั้งก็ถูกทอดทิ้ง ถูกเหยียบย่ำ และถูกทำให้สกปรก ซึ่งอาจเป็นผลจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวๆ ที่กระทบกับชีวิตเรา หรือการที่เราตัดสินใจทำสิ่งต่างๆ ซึ่งอาจผิดพลั้ง ทำให้ต้องสูญเสีย ท้อแท้ และหมดกำลังใจ ทำให้รู้สึกว่า ชีวิตไร้ค่า ไม่มีความหมาย ความจริงแล้วนั้นชีวิตทุกชีวิตล้วนมีคุณค่าทั้งนั้น เหมือนกับแบงค์ใบนั้นนั่นแหละ แม้จะสกปรก จะยับยู่ยี่ มันก็ยังคงมีค่าในตัวมันเอง เพียงแต่แบงค์บางใบอาจเลอะเทอะ สกปรก ตกอยู่บนถนน คนเดินผ่านมาไม่ทันสังเกตุ ก็เดินผ่านไป ไม่ได้เก็บ นั่นไม่ได้หมายความว่า แบงค์ที่เลอะเทอะไม่มีค่า เชื่อสิสักวันต้องมีคนเดินมาเห็นแบงค์แล้วเก็บไปในที่สุด เพราะแบงค์มีค่าในตัวเสมอ

เราเชื่อว่าการมีชีวิตอยู่ คือการมีทรัพย์ที่ประเสริฐที่สุด "ชีวิต" เป็นทรัพย์ที่มีค่าเหนือทุกสิ่งในโลก เพราะการมีชีวิตอยู่นั้น หมายถึงการได้มีโอกาสที่จะรับรู้ โอกาสที่จะสัมผัสและกระทำการต่างๆ น่าแปลก ที่คนเรามักไม่ได้คำนึงถึงว่า การได้มีโอกาสมีชีวิตเป็นสิ่งมีค่าขนาดไหน กว่าจะเข้าใจก็ตอนใกล้จะสูญเสียมันไปแล้ว เราได้ใช้โอกาสของเราคุ้มค่ากับที่ได้ครอบครองมันหรือยัง คนเราเข้าใจถึงคุณค่าของการมีชีวิตแตกต่างกันไป ทำให้ใช้ชีวิตให้เกิดความคุ้มค่าไม่เท่ากัน ถ้าเปรียบชีวิตเหมือนแบงค์หนึ่งร้อยบาท 1 ใบ เราน่าใช้แบงค์100บาทของเราซื้อของที่จำเป็นมากกว่าจะใช้แทนกระดาษเป็นเชื้อจุดเตาฟืนมิใช่หรือ เราเชื่อว่า การได้คิด ได้ฝัน ได้ลอง ได้กระทำเพื่อบรรลุจุดมุ่งหมายนั้น ทำให้การมีชีวิตมีความคุ้มค่า และการได้ใช้ชีวิตทำเพื่อผู้อื่นและคนที่ตนรักเป็นการทำให้ชีวิตมีคุณค่า

หากใครทำการใดพลาดพลั้ง ผิดพลาด พึงใคร่ครวญถึงเหตุและผลของความผิดพลาดนั้น ทั้งนี้การที่ได้รู้ได้เข้าใจ ถึงมูลเหตุของความผิดพลาดตลอดจนแนวทางแก้ปัญหานั้น จะนำไปสู่การเพิ่มพูนทุนความรู้ในที่สุด ทั้งนี้ทุนความรู้ดังกล่าวจะทำให้เรามีความระมัดระวัง และรอบคอบมากขึ้น ในวันหน้าหากเกิดปัญหาในลักษณะเดิมอีก เราก็จะแก้ปัญหาได้ดีขึ้น การทำการค้าขาดทุนตลอดจนการสูญเสียทรัพย์สินเงินทองไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตจนไม่มีทางแก้ไข เพราะหากเรายังมีชีวิต รู้สะสมทุนความรู้ที่มากขึ้นจากความผิดพลาด ย่อมสามารถเพิ่มพูนทุนทรัพย์ขึ้นได้ใหม่ จงอย่านำความผิดหวังของเมื่อวาน มาบดบังความฝันในวันพรุ่งนี้ สิ่งที่เสียไป แม้บางทีทำให้เราสิ้นหวัง หมดกำลังใจ รู้สึกว่าชีวิตไม่มีค่า ท้อแท้ ท้อถอย ขอให้มีสติมองเห็นความเป็นจริงที่ว่า ทุกสิ่งที่ได้เสียไปมันก็ไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต เรามิได้เกิดมาเพียงเพื่อสิ่งที่เสียไปเหล่านั้นเท่านั้น การมีชีวิตของเรามีค่ามากกว่าสิ่งที่ได้เสียไปเหล่านั้นมากมายนัก


ในเมื่อปัจจุบันเป็นผลของอดีตเป็นเหตุของอนาคต กล่าวคือ อนาคตสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับตัวเราในปัจจุบัน เราจึงพึงมีสติ รู้จักให้ความสำคัญกับการทำปัจจุบันของเราให้มาก เพราะว่าอดีตเปลี่ยนแปลงมิได้ แต่อนาคตเปลี่ยนแปลงได้ ขอเพียงยังมีลมหายใจ(ทุนชีวิต) ไม่ทิ้งความฝัน ความหวังและความปรารถนาที่จะลุกขึ้นยืนหยัดเพื่อที่จะอยู่อย่างมีคุณค่า มีชีวิตอยู่อย่างคุ้มค่า ด้วยความเพียรพยายามอุตสาหะ ความศรัทธาในตัวเอง ศรัทธาในสิ่งที่ทำ มีความเชื่อมั่นในตัวเอง ไม่ท้อถอยต่ออุปสรรค มีสติ ให้ใจเป็นนาย ให้กายเป็นบ่าว เป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ คือชนะตัวเอง ชนะอารมณ์ตัวเอง ใช้ปัญญาบนพื้นฐานของทุนความรู้ที่มี ดำเนินการด้วยความไม่ประมาท ในวันหนึ่งข้างหน้าจะต้องบรรลุเป้าหมาย ได้พบคุณค่าที่ยิ่งใหญ่ มีความสุขใจและความอิ่มเอิบใจที่วันนี้เราได้ใช้โอกาสของการมีชีวิตพิสูจน์ว่า เราได้เกิดมาอย่างมีความหมาย ได้ก่อคุณค่าคุ้มค่ากับการได้เกิด เป็นที่ประจักษ์และยอมรับทั้งแก่ใจของเราเองและบุคคลอื่น ในวันนั้น เราจะมีความภาคภูมิใจ และเป็นสุขอย่างยิ่งที่ได้เป็นผู้สร้างคุณค่าต่างๆ ให้บังเกิด แม้ในวันหนึ่งชีวิตของเราต้องดับลง ความดีงาม ที่เราได้กระทำเมื่อครั้งมีโอกาสย่อมปรากฏแก่ผู้คนรุ่นหลัง เป็นที่จดจำและกล่าวถึง เมื่อแรกเกิดเราอาจร้องไห้คนเดียวแต่เมื่อเราจากไปผู้คนมากมายจะร้องไห้ให้เรา

นิยายอีโรติก




นิยายอีโรติก
ความรักคืออะไรบางคนบอกว่าความรักคือการให้ ใช่มันก็ถูกแต่สำหรับเพลบอยอย่างผมแล้วมันคือการได้สัมผัสทางกายจนทั้งคู่ เกิดความรักที่ดีต่อกันเพียงชั่วข้ามคืน ดั่งคืนนี้ที่ผมออกมาเที่ยวสถานบันเทิงยามค้ำคืนที่มีแสงไฟหลากสีดั่งกองเพลิงที่ลุกโชติช่วงท่ามกลางมหานครที่ล่อให้แมลงตัวเมียออกมาเล่นไฟอย่างหลงละเริงโดยมีแมลงตัวผู้ที่รอคอยการผสมพันธุ์อยู่แล้ว เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และรอคอยการหาคู่ในคืนนี้ผมจะมองหาเหยื่อหญิงสาวที่หน้าตาดีที่ยิ่งดึกยิ่งเมา จากนั้นก็เข้าไปตีสนิทจนเธอตายใจ เมื่อจบจากงานปาร์ตี้ทั้งเธอและผมต่างพร้อมที่จะเดินทางสู้เส้นทางกามอารมณ์ด้วยกัน เมื่อถึงห้องผมเสียท่าเธอซะแล้วเธอรุกโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวเหมือนสัตว์ป่าผู้หิวโหยเธอปะกบปากของผมทำให้ผมได้ลิ้มรสชาติอันหอมหวานของกลิ่นวายที่ติดที่ขอบริมผีปากอันเย้ายวนของเธอที่เธอดื่มมา ลีลาการตวัสลิ้นของเธอเหมือนพยามที่จะหาสิ่งของบางอย่างอย่างรีบเร่งถึงทีผมบ้างล่ะที่กลับมาเป็นฝ่ายรุกบ้างผม โจมตีเธออย่างหนักหน่วงจนเธอสิ้นฤทธ์ผมค่อยๆผ่อนกำลังลงและสงบลงดั่งทะเลที่เงียบสงบหลังจากที่มีพายุพาดผ่านอย่างบ้าคลั้ง ทั้งเธอและผมหายใจใส่กันอย่างโรยละรินจนแทบสิ้นแรง นี่แหละคือความรักที่แท้จริงของผม...............................................................................................

นิยายฉากเดียวจบ


นิยายฉากเดียวจบความขัดแย้งในระดับสังคม
ลูกคิงคองตัวหนึ่งอาศัยอยู่บนต้นไม้ใหญ่ตอนนี้มันรู้สึกหิวอาหารมากมันรังผึ้งรังใหญ่ที่อยู่บนต้นไม้เดียวกับมันด้วยความซนจึงไปสอยรังผึ้งเพื่อจะเอาน้ำหวานมากินเพราะความหิวเมื่อผึ้งถูกรังแกผึ้งจึงนำกองกำลังกองทัพผึ้งน้อยออกโจมตีลูกคิงคองทางอากาศฝูงผึ้งต่างรุมต่อยแล้วปล่อยเหล็กในใส่อย่างบ้าคลั้งจนเจ้าลูกคิงคองสู้ไม่ไหวจนลูกคิงคองสะบัดสะบอมไปทั้งตัวแล้วสุดท้ายก็ทนพิษเหล็กได้ไหวถึงแก่ความตายร่วงลงสู่พื้นนี่คือผลกรรมที่ได้รับจากการรังแกผู้อื่น

Friday, February 16, 2007

พลาดหัวข่าว


เซอร์ไพรส์ปาร์ตี้ EAU

ท่านอธิการบดี โชติรส ชวนิชทำเซอร์ไพรส์จัดปาร์ตี้ฉลองปีใหม่ให้กับคณะอาจารย์ บุคลากรและลูกจ้างในมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชียอย่างอลังการ


งานได้เริ่มขึ้นเวลา 18.00น.-21.00น. ณ บริเวณลานจอดรถข้างตึก A ภายในงานมีกิจกรรมมากมาย เช่น การแสดงของบุคลากร มีการร้องเพลง การประทานอาหารร่วมกัน และปิดด้วยการจับของขวัญ มีของรางวัลใหญ่ๆให้ลุ้นกันอย่างตื่นเต้น อาทิ ตู้เย็น โทรทัศน์สี เครื่องซักผ้า จักรยาน และอื่นๆอีกมากมายที่รอท่านเป็นเจ้าของรางวัลอยู่


วัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้ง เพื่อสร้างความรักความสามัคคีร่วมกัน และเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงานใหกับมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชียต่อไป